ไปแข่งขันหุ่นยนต์ World Robot Olympiad 2009


เกริ่นนำ
…นี่เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่นักเรียนพาผมไปต่างประเทศ ในครั้งแรกไปแข่งขันหุ่นยนต์ WRO2006 (World Robot Olympiad) ที่เมืองนานนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ 2 ที่ไต้หวัน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
…หลายเดือนมาแล้วที่ชมรมเมืองช้างโรบอท โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ ได้ฝึกซ้อมหุ่นยนต์ทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียนจนถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม
…เวลา 19.00 น. คณะของเราซึ่งประกอบด้วย เด็กชายศิราวุฒิ ฤทธิรณ, เด็กชายธีรภัทธ ธรรมธราธาร, เด็กชายณัฐวิฒ มั่นหมาย, เด็กชายราชิต พลังวัฒนกุล, ครูอนุสรณ์ จันทสุข, ครูธง ต่อยอด, ผู้อำนวยการฯ สุชีพ พฤฒิพันธ์พิศุทธ์และผู้ปกครองอีกหนึ่งท่าน เราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ไปยังประเทศเกาหลีใต้
อันยง ฮาเซโย
…“อันยง ฮาเซโย” เรามาถึงเกาหลีใต้ เช้าวันที่ 6 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่นำเที่ยวพาเราไปรับประทานอาหารพื้นเมืองของเกาหลีชื่อว่า อูด้ง คล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวแต่รสชาติมันจืดๆ เส้นเป็นเหลี่ยมๆ ยาวๆ และได้รับประทาน กิมจิ (ของแท้ๆ) ซึ่งมันก็คล้ายๆ ผักกาดดองเค็มบ้านเรา แต่ของเขามันเผ็ดนิดๆ

(อาหารมื้อแรกที่เกาหลีครับ)
…เรานั่งรถไปอีก 2 ชั่วโมงเพื่อไปอุทยานวิทยาศาสตร์ (Expo Park) ที่เมืองแทจอน วันนี้เป็นวันราชการเลยไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวเท่าไหร่นัก พวก สว (สูงวัย) อย่างผมเคยเดินชมบรรยากาศนิดหน่อยแล้วหาที่นั่งพัก ฮา ฮา

(มีจักรยานให้เช่าด้วย)

(นมกล้วย ทำจากกล้วยหอมผสมกับนม หอมด้วย อร่อยครับ)
…หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว เราก็ออกเดินทางไปที่เมืองโปฮัง เพื่อไปลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขัน WRO2009 (World Robot Olympiad) เราใช้เวลาเดินทางนานมาก ทำให้มาลงทะเบียนช้าเป็นลำดับสุดท้าย เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะต้องให้นักเรียนแยกตัวไปที่พักก่อนซึ่งอยู่ที่เมือง หางจากที่นี่ประมาณ 40 นาที ส่วนผมและครูที่เป็นโค้ชของทีมหุ่นยนต์จากประเทศไทย ต้องอยู่ที่นี่เพื่อเข้าประชุมชี้แจงกติกาการแข่งขัน
…ปีนี่เป็นปีที่ 2 ที่กติกาการแข่งขันจะมีเซอร์ไพรส์ ก็คือ มีการเพิ่มภารกิจที่หุ่นยนต์จะต้องทำและจะมีคะแนนเพิ่มให้ด้วย
การประชุมชี้แจงกติกาเป็นไปอย่างเข้มข้น ภาษาอังกฤษต้องแข็งแรง สำหรับคนไทยแล้วเรานั่งฟังเสียเป็นส่วนใหญ่ (ฮา ฮา) ที่พูดมากหน่วยก็คือ อินเดีย กติกาเซอร์ไพรส์ที่เพิ่มมาคือ มีลูกปิงปองอีกหนึ่งลูกให้หุ่นยนต์เก็บและนำมา shoot
เรากลับถึงที่พักเกือบ 3 ทุ่มแล้ว ห้องซ้อมปิด 3 ทุ่ม ทำให้ไม่ได้เอาหุ่นยนต์มาลองซ้อมสนามของทางเจ้าภาพเลย
…ผมเลยเปลี่ยนแผนการใหม่ นัดนักเรียนเพื่อบอกกติกาเซอร์ไพรส์และช่วยกันสร้างหุ่นยนต์และเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม และปิดไฟนอนหลังเที่ยงคืนไปแล้ว

(เปลี่ยนแผน พวกเราช่วยกัน)
วันแข่งขัน
…ทุกครั้งที่แข่งขันหุ่นยนต์ในเมืองไทย morning call ก็คือตัวผมที่ต้องคอยไปปลุกนักเรียนให้ตื่น แต่วันนี้ทางที่พักเขามีให้
…ผมนอนหลับสบาย อาจเป็นเพราะเราเหนื่อยจากการเดินทางมา 2 วันแล้ว และอากาศในห้องพักก็ไม่หนาว ตามที่คาดไว้เลย ใต้พื้นที่เรานอนเขามี heater ทำให้อากาศอบอุ่น

(หุ่นยนต์ เทควันโด ของเกาหลี)
…เมื่อมาถึงสนามแข่งขัน ผมพานักเรียนไปที่โต๊ะนั่งที่เจ้าภาพจัดไว้ในแต่ละทีม ในการแข่งขันจะไม่อนุญาตให้โค้ชแล้วมาในสนาม ผมเช็คดูความเรียนร้อยแล้วจึงบอกกับนักเรียนว่า “ให้มีสมาธิ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด อย่าตื่นเต้น”
…หลังจากมีพิธีเปิดการแข่งขันแล้วก็เริ่มประกอบหุ่นยนต์ เขียนโปรแกรมและทดสอบสนาม สภาพสนามที่ค่อนข้างยาก ที่ผมพูดเช่นนั้นเพราะแหล่งของแสงที่สองภายในสนามมีเงาจากหลายทิศทาง หากนักเรียนมาวัดแสงตอนที่มีเงาของตัวเองหรือของผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ก็จะทำให้ได้ค่าแสงที่ผิดไป

(กำลังช่วยกันแก้ปัญหา)

(เด็กๆ กำลังทดสอบก่อนการแข่งขัน)
…มันเป็นจริงตามที่ผมได้คิดไว้เลย หุ่นยนต์ของทีมเรา ไม่สามารถเช็คค่าแสงได้ตามที่ซ้อมมาเลย ทำให้การแข่งขั้นครั้งแรกเราไม่มีคะแนนเลย ในช่วงพักรับประทานอาหารผมได้มีโอกาสได้คุยกับนักเรียน เลยให้นักเรียนเปลี่ยนแผนใหม่ เราจะเช็คแสงเฉพาะที่ที่เราเช็คได้ ส่วนที่ที่เราเช็คไม่ได้ให้ใช้การเช็คการหมุนของล้อหรือที่ภาษาพวกเราว่า ใช้โรเทชั่น (Rotation)
…นักเรียนทำคะแนนได้ตามที่วางแผนไว้คือได้ 142 คะแนนเต็ม แต่เราใช้เวลาไป 1 นาที 3 วินาที ซึ่งค่อนข้างมากไป แต่ก็ทำให้ทีมเราพอมีสิทธิ์ลุ้นติด 1 ใน 8 ทีมที่ทางเจ้าภาพจะประกาศในงาน
…หลังจากแข่งขันเสร็จ ผมเหมือนเอาก้อนหินออกจากออกและนักเรียนก็คงจะรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน “เราทำดีที่สุดแล้ว”
ช่วงค่ำเราไปงาน Party ที่ทางเจ้าภาพได้จัดให้สำหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
รถไฟความเร็วสูง
…ผลการแข่งขันออกมาแล้ว ทีมของเราไม่ติด 1 ใน 8 ทีมที่จะประกาศบนเวที แต่ก็มีทีมจากประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลมาได้หลายทีม
ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รุ่นมัธยมศึกษาตอนต้น ( ทีม King’s College Thailand) โรงเรียน ภปร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 และรางวัลยอดเยี่ยมพิเศษที่ถูกโหวตโดยคณะกรรมการทุกท่าน ซึ่งถือเป็นรางวัลอันเป็นเกียรติที่น่าภาคภูมิใจยิ่งและถือเป็นปีแรกที่ธง ไทยได้โบกสะบัดอยู่เหนือธงชาติอื่น
- ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รุ่นมัธยมศึกษาตอนต้น ( ทีม DATA_XYZ) โรงเรียนอัสสัมชัญ ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 7
- ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รุ่นมัธยมศึกษาตอนปลาย ( ทีม PWIT) โรงเรียนเทศบาลเพชรวิทย์ ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 8
- ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รุ่นประถมศึกษา ( ทีม Konklataprakun) โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 6
ในการแข่งขัน ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รุ่นประถมศึกษานั้นมีทีมเข้าแข่งขันทั้งสิ้น 20 ทีม
- ประเภททั่วไปรุ่นประถมศึกษา (Prayamon Dreamteam 1 ) โรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 5 จากคะแนนเต็ม ในการแข่งขันประเภทนี้ อย่างไรก็ดีมีประเทศที่ได้คะแนนเต็มอยู่ประมาณ 5-6 ประเทศกรรมการจำเป็นต้องใช้เวลาในการทำภารกิจเป็นตัวตัดสินขั้นสุดท้าย
- ประเภททั่วไปรุ่นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทีมผสม CB Robot ) โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล , โรงเรียนเตรียมทหาร , โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ชัยภูมิ ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4
…ช่วงบ่ายเรานั่งรถไฟความเร็วสูง KTX จากเมืองแดกูไปเมืองโซล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็ถึง

(ทานข้าวเที่ยงหลังปิดงาน)

(KTX = Korea Train Express)
ตอนขึ้นรถไฟเด็กๆ พูดว่า “ทำไมมันไม่เร็วเลย” จริงๆ แล้วรถไฟช่วงแรกเขาจะวิ่งบนรางเหมือนบ้านเราก่อนระยะหนึ่ง ต่อมาจะเข้าระบบรถไฟความเร็วสูงความรู้สึกที่ได้รับเลยก็คือหูอื้อและวิ่งได้นิ่มมาก ผมดูความเร็วที่เขาแสดงให้ดูทำความเร็วได้สูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
…เราทานมื้อค่ำกับหมูผัดกะเพรา (ที่ไม่มีกะเพรา) ไข่เจียว ผัดผักและปลานึ่ง จากนั้นไป shopping ที่ตลาดทงแดมุน ทำให้เราได้เห็นร้านเครื่องสำอางค์ etude, skinfood และอื่นๆ อีกมากมาย สงสัยคนไทยจะมาซื้อเครื่องสำอางค์กันเยอะ เพราะพนักงานขายยังเป็นคนไทยเลย
วันของเด็กๆ
…ที่ญี่ปุ่นมี DisneyLand แต่ที่เกาหลีมี EverLand ที่นี้มีเครื่องเล่นหลากหลายชนิดให้เด็กๆ ได้เล่นอย่างสนุกสนาน สำหรับผมเริ่มต้นด้วยขึ้นกระเช้าแบบไม่มีพื้น รู้สึกเสียวเหมือนกันกลัวจะหล่น

(เสียวไหมจ๊ะ)
จากนั้นไปเข้าซาฟารี ดู Liger เสือขาวภูเขา แล้วก็หมีที่รู้ภาษาคน ที่ว่ารู้ภาคนเพราะมันถูกฝึกมาให้แสดงตามที่คนสั่งหรือใช้อาหารล่อมัน เรามาช่วงเช้าทำให้ไม่ต้องรอคิวนานผมไปล่องแก่งต่อเลย แล้วจบด้วยไปดุหนัง 4 มิติ จริงๆ แล้วมันก็คือโรงหนัง Simulator นั้นเอง เวลาเขาไปดุจะต้องใส่แว่น 3 มิติ ขณะกำลังฉายที่นั่งของเราสามารถขยับหรือมีละอองน้ำพ่นออกมาให้เราตกใจ
…ออกจากโรงหนังได้ยินเสียงกรี๊ด จากรถไฟเหาะ T-Express ผมเลี้ยวขวาออกทันทีเพราะเคยหลวมตัวเล่นที่ไต้หวันมาแล้วเข็ดไปจนตายเลย
…ตอนเที่ยงเราไปทานเนื้อย่างเกาหลีของจริง ต่างจากบ้านที่เห็นได้ชัดคือขนาดของเนื้อที่นำมาย่าง เป็นเนื้อไม่หนานักแต่มีขนาดใหญ่ เมื่อย่างได้ที่แล้วก็ใช้กรรไกรตัดให้พอคำ ส่วนเครื่องเคียงก็มีผัก สาหร่าย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ กิมจิ
คิดถึงเมืองไทย
…วันสุดท้ายแล้วที่จะอยู่แดนกิมจิ ผมก็เริ่มจะคิดถึงบ้านเหมือนกัน เสื้อกันหนาวจากเมืองไทยยังมีบ้างตัวยังไม่ได้เอามาใช้เลยเพราะว่าที่นี่มันไม่หนาว ของฝากก็ซื้อครบหมดแล้ว
…สำหรับการแข่งขันหุนยนต์ WRO2010 (World Robot Olympiad) ในปีหน้าจะจัดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์
…จากที่ได้เดินทางไปแข่งขันหุ่นยนต์หลายๆ ประเทศสิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกันคือ ความมีวินัยของคนและเด็กๆ ที่มาแข่งหุ่นยนต์มีทักษะกระบวนการคิด สิ่งเหล่านี้มีส่วนทำให้ประเทศเหล่านั้นมีความเจริญก้าวหน้า จะทำอย่างไรให้เด็กๆ ของเรามีสิ่งเหล่านั้น มาช่วยกันคิดให้มันดังๆ และมาช่วยกันทำให้มันเป็นจริงกันเถอะครับ